Boston Acoustics Solo II เพื่อนร่วมห้องนอนคุณ

Boston Acoustics เป็นผู้ผลิตลำโพงคุณภาพเยี่ยมจากอเมริกาที่ได้รับการยอมรับมานานในวงการเครื่องเสียงทั่วโลกรวมถึงในเมืองไทยด้วยและเมื่อเร็วๆนี้ได้รับวิทยุนาฬิกาปลุก Boston Acoustics Solo II มาให้ทดลองเล่น เรามาดูกันเลยดีกว่าเริ่มที่กล่องบรรจุภัณฑ์สีขาวพิมพ์รูปสินค้าสีสบายตา

เมื่อเปิดกล่องออกก็พบกับตัวเครื่องวิทยุที่ได้รับการป้องกันการกระแทกอย่างดีระหว่างขนส่งด้วยโฟมและถุงผ้าเนื้อนุ่ม สายไฟ เสาอากาศ FM และใบรับประกันจากบริษัท Zonic Vision ผู้นำเข้าเครื่องเสียง Boston Acoustics ในประเทศไทย

และแล้วก็ถึงเวลาพระเอกของเราเจ้า Boston Acoustics Solo II ได้อวดโฉมซะที

มาสำรวจสรีระของเจ้า Boston Acoustics Solo II กันก่อน เริ่มจากด้านหน้ามีปุ่มอยู่ 5 ปุ่ม

จากซ้ายไปขวาปุ่มแรก Alarm1 มีหน้าที่เปิดปิดการตั้งปลุก ปุ่มถัดมา Mode เอาไว้เลือกฟังค์ชั่นต่างๆของเครื่องเช่น FM AM AUX การปรับตั้งค่าต่างๆของเครื่อง ปุ่มใหญ่สุดตรงกลาง ปุ่ม Power ไว้เปิดปิดเครื่องและไว้ปรับระดับความดังของเสียง ปุ่มที่สองจากขวา Tune เอาไว้ปรับคลื่นความถี่ของสถานีวิทยุ และปุ่มสุดท้ายทางขวามือสุด Alarm 2 มีหน้าที่เปิดปิดการตั้งปลุก โดยเจ้า Boston Acoustics Solo II นั้นสามารถตั้งเวลาปลุกได้ 2 เวลา

เรามาดูด้านหลังของเจ้า Boston Acoustics Solo II กันบ้าง ด้านหลังเรียบๆง่ายๆด้านขวาเป็นป้ายบอกรายละเอียดต่างๆของเครื่องเช่น ยี่ห้อ เบอร์รุ่นและหมายเลขประจำเครื่องเป็นต้น และช่องเสียบปลั๊กไฟ ถัดมาตรงกลางเป็นช่อง Sub สำหรับเสียงทุ้ม และทางซ้ายมือสุดเป็นช่องต่อต่างๆของเครื่อง เริ่มจากด้านบนสุดเป็นเสาอากาศคลื่น AM แบบอยู่ภายในตัว ถัดลงมาเป็นช่องเสียบเสาอากาศ FM และล่างสุดเป็นช่อง AUX ไว้ต่อสัญญาณเสียงภายนอกต่างๆตามแต่ใจท่่านปรารถนาเช่น iPod เครื่องเล่น MP3 หรือจะเป็นเครื่องเล่น CD ก็ได้ ส่วนขอบของด้านหลังหุ้มด้วยยางทำให้เวลาตั้งเครื่องไม่ว่าเป็นแนวตั้งหรือแนวนอนยึดเกาะกับพื้นผิววัสดุได้อย่างมั่นคง

เปลี่ยนมาดูมุมด้านข้างกันบ้าง ผิวของตัวเครื่องได้รัับการเคลือบเงามาซะเงาแว้ปเชียว แต่ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการดูแลรักษาเพราะหากใช้ผ้า Micro Fiber ที่มีจำหน่ายทั่วไปมาเช็ดทำควารมสะอาดแล้วก็ยากที่จะมี

ริ้วรอยมาโผล่มารบกวนสายตาส่วนขอบตะแกรงลำโพงที่เห็นเป็นเส้นสีเงินๆนั้นไม่ได้มีเพื่อความสวยงามเท่านั้นแต่มันยังทำหน้าที่เป็นปุ่ม Snooze ทำหน้าที่เลื่อนเวลาปลุกออกไปเวลาเจ้า Boston Acoustics Solo II ส่งเสียงปลุกคุณเมื่อถึงเวลาที่ตั้งไว้ ถ้าอยากจะอยู่ในโลกแห่งความฝันต่อจอเพียงแค่แตะที่ขอบโลหะสีเงินเบาๆเท่านั้น Boston Acoustics Solo II ก็จะเลื่อนเวลาปลุกคุณออกไป และที่เห็นเป็นปุ่มยางสีขาวๆขุ่นๆนั้นเป็นตัวรองเครื่องเวลาตั้งเครื่องทำให้เครื่องตั้งได้ทั้งแนวตัี้งและแนวนอนได้อย่างมั่นคง

หลังจากสำรวจภายนอกกันเรียบร้อยแล้วเราก็มาดูกันต่อว่าเจ้า Boston Acoustics Solo II ทำอะไรได้บ้าง เสียบปลั๊ก เปิดเครื่องแล้วก็กดปุ่ม Power และหมุนปุ่ม Mod เบาๆก็จะเข้าสู้หน้า Menu ของเจ้า Boston Acoustics Solo II เรามาเริ่มกันเลยว่าเจ้า Boston Acoustics Solo II ทำอะไรได้บ้าง เริ่มจาก Preset คือช่องสถานี FM และ AM ที่ตั้งไว้ล่วงหน้าโดยสามารถตั้งได้ทั้งหมด 20 สถานี ถัดไปก็ FM และ AM ทางขวาสุดด้านบน Aux คือแหล่งสัญญาณเสียงภายนอกเช่น iPod ดังที่กล่าวไว้แล้วข้างต้น

ถัดลงมาเป็น Function ต่างๆของตัวเครื่องเริ่มจากซ้ายสุด Brightness คือปรับความสว่างของหน้าจอโดยสามารถปรับได้ 20 ระดับแต่ไม่สามารถตั้งให้ปิดไฟหน้าจอได้ ถัดไป Info คือรายละเอียดข้อมูลเช่นตอนนี้ฟังจากแหล่งสัญญาณไหน ตอนนี้เวลากี่โมงแล้ว ตรงกลางคือฟังค์ชั่น Sleep ใช้ตั้งเวลาปิดเครื่องล่วงหน้าให้ Boston Acoustics Solo II กล่อมคุณและส่งคุณเข้านอนหลับฝันดีโดยสามารถตั้งเลาได้ล่วงหน้าได้ 5 - 90 นาที โดยจะเพิ่มหรือลดได้สเต็ปละ 5 นาที ถัดมาคือ Bass ไว้สำหรับปรับระดับเสียงทุ้มตามความชอบของคุณโดยสามารถปรับได้ละเอียดตั้งแต่ -7 จนถึง +7 และสุดท้าย Treble มีไว้ปรับระดับเสียงแหลมเช่นเดียวกับการปรับเสียงทุ้ม ผู้ใช้สามารถปรับเสียงแหลมได้ละเอียดตั้งแต่ -7 จนถึง +7 เช่นกัน

Alarm 1 และ Alarm 2 เป็นการแสดงโชว์การเปิดปิดฟังค์ชั่นตั้งเวลาปลุกล่วงหน้าและตรงกลางที่เป็นรูปนาฬิกาก็ไว้แสดงเวลาปัจจุบัน

ถึงเวลาจะลองฟังเสียงของ Boston Acoustics Solo II กันแล้ว เริ่มที่ภาครับวิทยุครับ สามารถรับสัญญาณได้อย่างชัดเจนแม้คลื่นที่ลงท้ายด้วย .25 .75 ก็รับได้ไม่มีปัีญหา เวลาเลือกคลื่นความถี่นั้นสามารถเลือกแบบอัตโนมือก็ทำได้โดยการหมุนปุ่ม Tune หรือหากต้องการค้นหาคลื่นอัตโนมัติก็กดปุ่ม Tune เบาๆเท่านั้นเจ้า Boston Acoustics Solo II ก็จะค้นหาคลื่นให้อัตโนมัติ ปุ่ม Tune ก็ทำงานได้เป็นอย่างดีหากต้องการค้นหาคลื่นเร็วๆก็หมุนเร็วหน่อยตัวเลขคลื่นความถี่ก็จะเปลี่ยนอย่างรวดเร็วแต่หากต้องการค้นหาคลื่นอย่างละเอียดละออก็เพียงค่อยๆหมุนอย่างช้าๆ Boston Acoustics Solo II ก็จะค้นหาคลื่นให้อย่างละเอียดยิบเชียว

ลองวิทยุกันแล้วก็มาต่อที่ AUX หรือสัญญาณเสียงภายนอก และในการทดสอบนี้ผมต่อกับ iPhone 3G เก่าๆของผมเสียงที่ออกมานั้นถือว่าดีทีเดียว เวลามีสายเข้าเสียงริงโทนจะออกที่ Boston Acoustics Solo II แต่เมื่อรับสายแล้วเสียงที่ Boston Acoustics Solo II ก็จะถูกตัดไปพอสนทนาเสร็จแล้วกดวางหูเสียงเพลงก็กลับมาอย่างเดิมโดยอัตโนมัติ หากปิดเครื่องขณะที่เปิด Volumn สูงๆไว้เมื่อกลับมาเปิดเครื่องใหม่อีกครั้ง Boston Acoustics Solo II ก็ทำการหรี่เสียง Volumn ลงให้อัตโนมัติเพื่อเป็นการป้องกันดอกลำโพงแตก

หากพื้นที่ตั้ง Boston Acoustics Solo II จำกัดหรือเบื่อกับการจัดวางแบบเดิมๆก็ทำการหมุนหน้าปัทแล้วจัดวางแบบแนวตั้งไ้ด้ เก๋ไก๋ไปอีกแบบ

หลังจากได้สัมผัส Boston Acoustics Solo II อยู่เกือบสัปดาห์ เปิดเครื่องทุกวันตั้งแต่ 9.30 - 18.30น. เครื่องก็ไม่มีอาการงอแงตัวร้อนให้เห็นแถมเสียงก็ดีทีเดียวและยังใช้งานได้ง่าย ดีไซน์เรียบสวย Boston Acoustics Solo II นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุ้มค่าเงินที่จ่ายไปมากๆในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ หากอยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสเป็คละเอียดก็สามารถดูได้ที่ http://bit.ly/qxZGeV

หากอยากลองฟังเสียงลองเล่นเจ้า Boston Acoustics Solo II ก็สามารถสอบถามมาได้ที่ร้านสเตอริโอเฮาส์ ร้านเครื่องเสียงเก่าแก่ที่ให้บริการมากว่า 30 ปีแล้วได้ที่ 02-2552584-9 และ sales@stereohouse.co.th หรือจะเข้ามาเยี่ยมชมเว็ปไซด์ของทางร้านก็คลิกเข้ามาที่ www.stereohouse.co.th จะเดินทางมาก็สะดวกสบายจะขับรถมาก็จอดได้ที่หน้าร้านหรือจะนั่งรถไฟฟ้าก็ลงที่สถานีชิดลมเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที หากมาไม่ถูกก็ดูได้จาก Google maps ลิ้งค์นี้ แผนที่ Google maps Stereo House สะดวกสบายจริงๆ

Tivoli Audio iYiYi iPod Docking ที่เป็นทั้งวิทยุและนาฬิกาปลุก

Tivoli iYiYi iPod iPhone Docking ที่เป็นทั้งวิทยุและนาฬิกาปลุก ถึงคิวรีวิวแล้ว ไม่ต้องพูดพร่ำำทำเพลงให้เสียเวลามาลุยกันเลยดีกว่าครับ

หน้าตากล่องที่บรรจุมาดีไซน์เรียบๆตามสไตล์ Tivoli Audio เค้าล่ะ

เปิดฝากล่องด้านนอกก็จะเจอรูปเครื่องพร้อมคำอธิบายว่าส่วนใดเป็นส่วนใด ปุ่มอะไร ทำหน้าที่อะไร

เปิดฝาในออกก็จะเจอกับคู่มือ สายไฟที่มีขนาดยาวใช้ได้ทีเดียว รีโมทควบคุม และ Adaptor สำหรับ iPod รุ่นต่างๆ

ต่อไปก็ได้เวลามาดูหน้่าตาของเจ้า Tivoli iYiYi กันเสียทีครับ ด้านหน้าเป็นพลาสติคแผ่นเดียวสีดำมันเงาแว็บพร้อมด้วยหน้าจอ ปุ่มควบคุม ลำโพงสองดอก เซ็นเซอร์ต่างๆ และที่ขาดไม่ได้คือ Docking สำหรับเสียบ iPod หรือ iPhone นั่นเอง

หลังจากดูภายรวมของหน้าตาเจ้า Tivoli iYiYi แล้วเรามาเจาะลึกว่าแต่ละปุ่มมันทำหน้าที่อะไรกัน สีแดงๆด้านมุมขวาบนเป็นเซ็นเซอร์รับสัญญาณอินฟราเรดจากรีโมท ถัดลงมาเป็นเซ็นเซอร์รับแสงที่จะทำหน้าที่ปรับความสว่างของหน้าจอให้เหมาะสมกับแสงในห้อง เขยิบไปด้านซ้ายเป็นปุ่ม Volume ปรับความดังของเสียง เถิบไปอีกนิดเป็นปุ่มปรับจูนคลื่นความถี่สถานีวิทยุ และเจ้าสองปุ่มที่อยู่ริมหน้าจอคือปุ่ม Alarm ทำหน้าที่ตั้งปลุกและปุ่ม Sleep ทำหน้าที่ตั้งเวลาปิดเครื่องอัตโนมัติส่งเราเข้านอนด้วยเสียงเพลงไพเราะ

ข้ามมาอีกฟากนึงของตัวเครื่องก็จะพบกับหลายปุ่มๆเรียงเป็นแถว ปุ่ม Power สีแดงเป็นปุ่มเปิดปิดเครื่อง ถัดลงมาปุ่ม Source เป็นปุ่มเลือกแหล่งสัญญาณเสียงที่ต้องการ เขยิบมาทางซ้ายอีกหน่อยที่เห็นเป็นปุ่มเลข 1-5 คือปุ่มตั้งล็อคสถานีวิทยุล่วงหน้าทั้ง FM และ AM รวมกันได้ถึง 5 สถานี ถัดมาปุ่ม RDS เป็นปุ่มสำหรับเปิฟังชั่น RDS หรือที่มีชื่อเต็มๆว่า Radio Data System ซึ่งจะแสดงข้อความตัวอักษรที่ทางสถานีส่งออกมากับคลื่นสัญญาณเช่นชื่อสถานีของสถานีคลื่นความถี่นั้นๆและ RDS จะทำงานเฉพาะคลื่น FM เท่านั้น ถัดลงมาเป็นปุ่ม Set มีหน้าที่ตั้งเวลาต่างๆทั้งเวลานาฬิกาและเวลาปลุก

ด้านล่างเป็นช่องเสียบหูฟังเมื่อเวลาต้องการความเป็นส่วนตัว และไฟ LED สีเขียวที่จะส่องสว่างแสดงสถานะเมื่อเปิดเครื่อง

ที่มุมขวาล่างจะพบกับชื่อรุ่น iYiYi ชัดเจนซึ่งสกรีนไว้อย่างคมกริบ

สำรวจด้านหน้ากันจนครบแล้วลองมาดูด้านหลังกันบ้าง เจ้ารูสองรูนั้นคือช่องสำหรับขับเสียงเบส ด้านล่างเป็นช่องต่อต่างๆ

ด้านหลังตรงกลางมีรายละเอียดไว้ทั้งชื่อรุ่น Tivoli Audio iYiYi และชื่อผู้ออกแบบคือ Tom DeVesto นักออกแบบเครื่องเสียงชื่อดังที่นักเล่นเครื่องเสียงจะต้องรู้จัก ผู้ออกแบบยังเคยร่วมงานกับบริษัทเครื่องเสียงที่มีชื่อเสียงระดับโลกต่างๆอาทิ Advent Corporation และ Kloss Video อีกทั้งยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทเครื่องเสียงระดับไฮเอนด์นามว่า Cambridge SoundWorks ก่อนที่จะแยกตัวออกมาก่อตั้ง Tivoli Audio ที่ออกแบบและผลิตเครื่องเสียงคุณภาพสูงในราคาสมเหตุสมผลแก่ผู้บริโภคทั่วโลก ถัดลงมาด้านล่างยังมีเบอร์โทรศัพท์ติดต่อกับทางบริษัทที่อเมริกาพร้อมอีเมล์เพื่อสอบถามปัญหาต่างๆเกี่ยวกับสินค้าอีกด้วย

ลงมาด้านล่างก็พบกับช่องต่อต่างๆ ด้านซ้ายสุดเป็นช่องเสียบเสาอากาศ FM แบบภายนอก ถัดมาเป็นสวิตช์เลือกว่าจะใช้เสาอากาศ FM แบบภายในหรือภายนอกเึครื่อง ถัดมาอีกช่องเป็นช่อง Rec Out ไว้สำหรับต่อสัญญาณเสียงจากเจ้า Tivoli iYiYi เข้าเครื่องขยายเสียงหรือเครื่องบันทึกเสียงอื่น ช่อง Aux In สำหรับต่อสัญญาณเสียงจากแหล่งสัญญาณเสียงอื่นๆเพื่อให้เจ้า Tivoli iYiYi เป็นตัวขยายเสียงและช่องสุดท้ายคือช่องต่อ Mix In ไว้สำหรับต่อสัญญาณเสียงจากแหล่งสัญญาณเสียงภายนอกมามิกซ์กับสัญญาณเสียงภายในของ Tivoli iYiYi

มาลองดูมุมด้านข้างของเจ้า Tivoli iYiYi กันบ้าง

มุมเฉียงอีกนิด

เมื่อสำรวจภายนอกกันเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลามาลองเสียงของเจ้า Tivoli iYiYi กันซะที เริ่มจากลองเสียงจาก iPod กันก่อน iPod ที่ใช้ก็เป็นตัวเดิมเจ้า iPod Nano รุ่นพระเจ้าเหา เสียงที่ได้นั้นเสียงดีชัดเจนไม่เป็นที่ผิดหวังจริงๆสมชื่อผู้ออกแบบนาย Tom DeVesto นักออกแบบเครื่องเสียงชื่อดัง

ในกล่องยังให้ Adaptor เพื่อใช้กับ iPod รุ่นต่างๆเวลาเชื่อมต่อกับ Docking ของ Tivoli iYiYi

และสามารถใช้ร่วมกับ iPod รุ่นต่างๆดังนี้

4-6 Generation iPod Classic, 1-2 Generation iPod mini, 1-5 Generation iPod Nano, 1-2 Generation iPod Touch, 1st Generation iPhone, iPhone 3G, iPhone 3GS

เมื่อไม่ได้เล่น iPod เจ้า Tivoli iYiYi ยังสามารถชาร์จเติมพลังให้กับ iPod ของคุณได้อีกด้วย

เจ้ารีโมทขนาดเท่าบัตรเครดิตการ์ดดีไซน์บางเฉียบที่มีสีแมทช์กับตัวเครื่องนั้นก็ทำการควบคุมเครื่องได้เป็นอย่างดี การวางตำแหน่งของปุ่มควบคุมฟังชั่นต่างๆก็วางได้ดีทีเดียวกดใช้ฟังชั่นต่างๆได้ง่ายอีกทั้งยังมีดีไซน์ด้านล่างของรีโมตโค้งมนเล็กน้อยทำให้จับถือและใช้ได้สะดวก บนตัวiuโมทมีชื่อยี่ห้อและรุ่น Tivoli Audio iYiYi บ่งบอกว่ารีโมทชิ้นนี้ใช้กับเครื่องเสียงชุดใด นับเป็นอีกหนึ่งความใส่ใจในรายละเอียดของผู้ออกแบบ

ต่อมาทดสอบด้วย iPhone บ้าง iPhone ที่ใช้ในการทดสอบเป็น iPhone 3G ซึ่งก็สามารถใช้งานกับเจ้า Tivoli iYiYi ได้เป็นอย่างดี ควบคุมสั่งการทำงานฟังชั่น iPod ของ iPhone ด้วยรีโมทได้อย่างสะดวกสบาย

ต่อมาก็เป็นการการทำงานของภาครับวิทยุของเจ้า Tivoli iYiYi กันครับ ต้องเรียนก่อนว่าทำทดสอบเจ้า Tivoli iYiYi ในห้องที่ไม่ติดกับหน้าต่างและอยู่ห่างจากกำแพงพอสมควร แต่เจ้า Tivoli iYiYi ก็สามารถรับสัญญาณวิทยุได้ชัดเจนแม่จะใช้เสาอากาศภายในตัวเครื่องก็ตาม และฟังชั่น RDS ก็ทำงานได้เป็นอย่างดีสามารถแสดงตัวอีกษรที่ถูกส่งมาพร้อมสัญญาณคลื่นวิทยุจากสถานีได้

นอกจากนี้ Tivoli iYiYi ยังสามารถตั้งเวลาปลุกได้ และยังสามารถตั้งเวลาปิดอัตโนมัติส่งคุณเข้านอนด้วยเสียงดนตรีเพราะๆอีกด้วย

นอกจากตัวเครื่องสีดำแล้ว Tivoli iYiYi ยังมีขาวให้เลือกอีกด้วยซึ่งก็สวยไม่แพ้กัน

ด้วยดีไซน์ คุณภาพการผลิตและน้ำเสียงที่ได้แล้ว Tivoli iYiYi เหมาะที่จะรับใช้ท่านเป็นทั้งiPod Docking วิทยุและนาฬิกาปลุกได้เป็นอย่างดี

หากต้องการข้อมูลขอลเจ้า Tivoli iYiYi เพิ่มเติมก็สามารถเข้าไปดูได้ที่ http://bit.ly/nqVMT0 หรือหากอยากทดลองฟังเสียงและชมตัวจริงก็สามารถชมได้ที่ร้านสเตอริโอเฮาส์ ร้านจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องเสียงที่ให้บริการมายาวนานกว่า 30 ปี ได้ที่โทร 02.-255.2584-9 หรือทางอีเมล์ sales@stereohouse.co.th

Teac R-2 วิทยุรูปทรงเท่ห์ที่หลายๆคนพูดถึง

Teac R-2 เป็นหนึ่งในวิทยุรูปทรงเท่ห์ที่หลายๆคนพูดถึง บางคนเคยเห็นรูปร่างหน้าตาของเจ้า R-2 แล้วทางหน้านิตยสารหรือทางอินเตอร์เน็ทและติดอกติดใจในรูปร่างของเจ้าวิทยุเก๋ๆรุ่นนี้ วันนี้ผมจะพาคุณไปรู้จักกับเจ้า Teac R-2 แบบเจาะลึกกัน

เปิด package ของเจ้า Teac R-2 ออกมาก็จะเจอกับตัวเครื่อง คู่มือ ใบรับประกัน หม้อแปลงไฟ สายเสาอากาศ FM และสาย Mini stereo jack ขนาด 1/8"

ก่อนอื่นเรามาดูหน้าตาของเจ้า Teac R-2 กันก่อน ตัวตู้เป็นพลาสติคสีขาวผิวมัน ด้านหน้าเป็นตระแกรงโลหะสีเงิน ขอบแต่งผิวสแตนเลสปัดลายเป็นเส้นๆ หน้าจอ LCD ทรงวงกลมขนาดใหญ่ มีไฟ Backlight สีฟ้าขาว ดีไซน์เรียบง่ายดูมีระดับ ด้านข้างเครื่องมีหูหิ้วสำหรับหิ้วเจ้า Teac R-2 ไปไหนมาไหนสะดวกสบาย

ด้านบนเครื่องมีปุ่มควบคุมต่างๆ

ด้านหลังเครื่อง ด้านบนสวิตช์ปรับเลือกคลื่นสำหรับย่านความถี่คลื่นให้ตรงกับสภานที่และเสาอากาศ FM ภายนอกแบบยืดหดได้ ถัดลงมาเป็นช่องสำหรับเสียบเสาอากาศ FM ภายนอกแบบเป็นสายที่มีมาให้ในกล่อง ถัดลงมาอีกเป็นช่อง Aux In สำหรับเชื่อมต่อสัญญาณเสียงจากเครื่องเล่นต่างๆเช่น iPod เป็นต้น ถัดลงมาอีกเป็นช่องเสียบหูฟัง โดยทั้ง Aux In และช่องหูฟังใช้ Mini stereo jack ขนาด 1/8" และสุดท้ายเป็นช่องเสียบหม้อแปลงไฟซึ่งทำหน้าที่ชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ภายในตัวเครื่อง ทำให้สามารถหิ้วไปที่ต่างๆได้โดยไม่ต้องเสียบปลั๊ก ยังไม่หมดมีอีกอย่างนึงคือช่องสำหรับเสียงทุ้มเพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับฟังนั่นเอง

ชมภายนอกกันครบแล้วมาลองเล่นเจ้า Teac R-2 กันเลยดีกว่า เริ่มจากต่อ iPod ผ่านช่อง Aux In กันก่อนแล้วกัน iPod ที่ใช้่ลองเครื่องก็คือ iPod Nano รุ่นโบราณเหมือนเดิม โดย file เพลงที่ใช้ลองเครื่องก็มีทั้ง file ความละเอียดตั้งแต่ระดับ 128 kpbs จนไปถึงระดับ 320 kpbs เสียงที่ได้ออกมาใช้ได้ทีเดียว ถือว่าดีสำหรับวิทยุโมโนตัวเล็กๆ เสียงร้องออกมาได้ชัด เสียงเบสมีพอสมควร

หากไม่พอใจในเสียงทุ้มหรือเสียงแหลมก็สามารถปรับเพิ่มหรือลดได้ +4 /-4 ระดับได้ที่ด้่านบนของตัวเครื่อง ซึ่งคุณสมบัตินี้ไม่ค่อยพบในวิทยุขนาดเล็กแบบนี้ ส่วนมากที่เจอก็จะเป็นเพียงแต่ปุ่มปรับ Tone ไม่สามารถแยกปรับทุ้มและแหลมแบบเจ้า Teac R-2

ต่อมาเรามาลองภาครับวิทยุกันต่อ เจ้า Teac R-2 นี้สามารถรับได้ทั้ง FM และ AM เท่าที่ลองในห้องที่ทดสอบซึ่งไม่มีหน้าต่างและห่างจากกระจกพอสมควรพบว่าหากไม่ยืดเสาอากาศขึ้นแทบจะรับสัญญาณวิทยุไม่ได้เลย แต่เมื่อยืดเสาอากาศขึ้นแล้วก็สามารถรับคลื่น FM ได้ชัดทีเดียว เจ้า Teac R-2 ยังสามารถตั้งสถานีวิทยุทั้ง FM และ AM รวมกันได้ถึง 10 สถานี

นอกจากนี้ Teac R-2 นี้ยังสามารถตั้งเวลาปลุกได้สองเวลา เลือกตั้งเป็น Alarm 1 และ Alarm 2 โดยสามารถเลือกเสียงปลุกเป็นเสียงปิ๊ปๆหรือเสียงวิทยุ ผู้ใช้สามารถตั้งสถานีวิทยุและระดับความดังของเสียงปลุกได้ตามชอบใจ

หากถึงเวลาปลุกแล้วท่านยังอยากงีบต่อก็เพียงกดปุ่ม Snooze รูปร่างยาวๆที่ด้านบนเครื่องเจ้า Teac R-2 ก็จะปลุกท่านอีกทีในอีก 10 นาทีต่อมา

นอกจากจะสามารถปลุกท่านในยามเช้าได้แล้วเจ้า Teac R-2 ยังสามารถตั้งเวลาปิดเครื่องอัตโนมัติคลอเพลงเบาๆส่งท่านนอนหลับฝันดีในยามค่ำคืนได้อีกด้วยโดยสามารถตั้งเวลาปิดเครื่องได้ 3 ระดับคือ 30 60 และ 90 นาที

นอกจากสีขาวแล้วยังมีสีดำให้เลือกอีกด้วย

ด้วยดีไซน์ที่เรียบๆ ใช้งานง่ายๆ มีคุณสมบัติเพียบพร้อมสำหรับวิทยุขนาดเล็กทั้งรับสัญญาณวิทยุ FM และ AM มีช่องต่อ Aux In เพื่อต่อกับเครื่องเล่น MP3 ต่างๆ คล่องตัวสามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้ ฟังเพลงหรือฟังข่าวในที่ต่างๆได้โดยใช้พลังงานจากแบตเตอรี่แบบชาร์จได้ในตัว และยังสามารถตั้งเวลาเปิดและปิดเครื่องอัตโนมัติได้ ที่สำคัญที่สุดคือราคาสมน้ำสมเนื้อไม่แพงเกินไป ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ทำให้คิดว่า Teac R-2 เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับวิทยุขนาดเล็ก

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเข้าดูได้ที่ http://www.stereohouse.co.th/product-TeacวิทยุนาฬิกาR2-8934-74608-1.html หรืออยากสัมผัสหรือเป็นเจ้าของ Teac R-2 วิทยุทรงเท่ห์รุ่นนี้ก็สามารถติดต่อไปได้ที่ร้านสเตอริโอเฮาส์ ร้านจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องเสียงที่ให้บริการมายาวนานกว่า 30 ปี ได้ที่โทร 02.-255.2584-9 หรือทางอีเมล์ sales@stereohouse.co.th

Tivoli Audio Model 1 วิทยุดีไซน์ย้อนยุคที่คุณจะต้องหลงรัก

Tivoli Model 1 วิทยุหน้าตาย้อนยุคดีไซน์เรียบๆจาก Tivoli Audio ซึ่งเป็นผลงานออกแบบของ Henry Kloss หนึ่งในตำนานวงการเครื่องเสียง

ไม่ต้องเสียเวลามาชมรีวิวกันเลยดีกว่า หน้าตา Package เรียบๆแต่ดูดี

เมื่อแกะกล่องออกมาก็พบกับตัวเครื่อง คู่มือ สายไฟและเสาอากาศแบบ 75 Ohm

มาสำรวจรูปร่างหน้าตาของเจ้า Tivoli Model 1 กันก่อน เริ่มด้วยด้านหน้ากันก่อน

หน้าตาออกแบบแนวเรียบๆง่ายๆมีดอกลำโพงขนาด 3" แบบ Full Range ปุ่มปรับระดับเสียง ปุ่มหมุนปรับเลือกแหล่งสัญญาณพร้อมทั้งเป็นปุ่มเปิดปิดเครื่องอีกด้วย และที่ด้านขวาสุดเป็นปุ่มหมุนปรับคลื่นวิทยุ

จับหันข้างมาดูงานไม้กันบ้าง Tivoli Model 1 มีหลายไม้ให้เลือกตามที่ใจชอบมากมายแต่ที่วันนี้เรานำมารีวิวเป็นตู้ไม้วอลนัทหน้าสีคลาสสิคเบจ ได้อารมณ์ย้อนยุคมาก ตัวตู้ของเจ้า Tivoli Model 1 นี้เป็นแผ่นไม้วอลนัทแท้หนาประมาณ 3 มม.ประกบติดกับวัสดุทำตู้ ไม่ใช่วัสดุสังเคราะห์แล้วพิมพ์ลายไม้หรือวีเนียไม้แท้แต่บางจ๋อยเพืิ่อลดต้นทุนแบบที่บริษัทต่างๆนิยมทำกัน การประกอบและการทำผิวตู้ทำออกมาได้เนี๊ยบมาก การต่อลายของไม้ก็พอดีเป๊ะในทุกๆด้าน ใส่ใจในทุกรายละเอียดจริงๆ ผิวสัมผัสจากตัวตู้ที่ผลิตขึ้นจากไม้แท้ ๆ ให้ความรู้สึกแตกต่างจากวัสดุสังเคราะห์อย่างสิ้นเชิง

จับหงายท้องก็จะพบกับช่องสำหรับเสียงทุ้มซึ่งจะเห็นความหนาของแผ่นไม้วอลนัทที่ใช้ทำผิวตู้

ดูด้านหลัง Tivoli Model 1 กันบ้าง ด้านบนสุดก็จะพบกันสวิตช์เลื่อนสำหรับเลือกว่าจะรับสัญญาณวิทยุทั้ง FM และ AM โดยใช้เสาอากาศภายในเครื่องหรือเสาอากาศภายนอก ถัดลงไป ช่องต่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นช่องต่อเสาอากาศแบบภายนอกทั้งแบบ 75 OHM สำหรับสัญญาณ FM และแบบ Mini stereo jack ขนาด 1/8" สำหรับสัญญาณ AM ช่อง Aux In สำหรับต่อสายสัญญาณเสียงจากแหล่งเสียงอื่นๆไม่ว่าจะเป็น iPod หรือเครื่องเล่น CD และเพื่อความเป็นส่วนตัว Tivoli Model 1 ยังมีช่องเสียบหูฟังด้วย อีกทั้งยังมีช่อง Rec out เพื่อต่อสัญญาณวิทยุจาก Tivoli Model 1 ไปยังเครื่องอัดเสียงต่างๆ หรือต่อไปยัง Amplifier ด้วย Mini stereo jack ขนาด 1/8" เพื่อขยายเสียงได้อีกด้วย และสุดท้ายเป็นช่องสำหรับเสียบหม้อแปลงไฟ 12 VDC เวลาใช้บนเรือซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริม

หลังจากสำรวจภายนอกกันเรียบร้อยแล้วก็มาทดลอง Tivoli Model 1 กันเลย

เริ่มต้นกันด้วยลองการทำงานของวิทยุกันก่อน เมื่อบิดสวิตช์มาที่ตำแหน่ง FM ไฟแจ้งสถานะเครื่องก็ติดเป็นสีเขียวเหลืองเพื่อแสดงว่าเครื่องทำงานปกติ และไฟอีกดวงด้านล่างก็ส่องสว่างเป็นสีส้มแสดงถึงความแรงของสัญญาณวิทยุที่เครื่องรับได้ ขณะที่ทดสอบนี้ผมได้นำเครื่องมาทดสอบที่ห้องทำงานที่ชั้นลอยซึ่งเป็นห้องไม่มีหน้าต่างและอยู่ห่างจากหน้าต่างพอสมควร Tivoli Model 1 ได้สร้างความประหลาดใจให้กับผมมากเพราะสามารถรับสัญญาณวิทยุสถานีต่างได้ดีมากๆแม้กระทั่งวิทยุชุมชนต่างๆที่ลงท้ายด้วย .25 หรือ .75 ทั้งหลายแหล่ทั้งๆที่เพียงใช้เสาอากาศภายในตัวเครื่องไม่ได้ต่อเสาอากาศภายนอก ปุ่มหมุนเลือกคลื่นวิทยุก็หมุนได้นุ่มมือมากๆ หมุนเลือกช่องสัญญาณคลื่นได้ละเอียด แต่เมื่อต้องการหมุนอย่างรวดเร็วปุ่มหมุนก็ตอบสนองได้ทันใจ เสียงที่ได้ออกมาเป็นที่น่าพอใจมาก ไม่แห้งกระด้างแบบวิทยุทั่วไปเพราะมีช่องสำหรับเสียงทุ้มที่ยิงลงด้านล่าง เพิ่มความมีน้ำมีนวลให้กับเสียงวิทยุได้ดีทีเดียว

หลังจากลองวิทยุกันแล้วมาลองต่อสัญญาณเสียงจาก iPod กัน ต่อเจ้า iPod Nano รุ่นดึกเข้าช่อง Aux ด้านหลังเครื่องด้วยสาย Mini stereo jack ขนาด 1/8" และบิดสวิตช์หมุนไปที่ตำแหน่ง Aux เสียงที่ได้จากการเล่นไฟล์เพลงเน้นเสียงร้อง MP3 ระดับ 198 kpbs นั้นเป็นที่น่าพอใจมากๆ ไม่เชื่อว่าวิทยุตัวเล็กๆที่มีดอกลำโพงขนาดเพียง 3" จะให้เสียงได้ดีขนาดนี้

หากคุณได้ลองฟังเสียงของเจ้า Tivoli Model 1 แล้วคุณจะต้องหลงรักมันแน่นอน

ถ้าอยากลองดูตัวจริงและลองฟังเสียงของ Tivoli Model 1 แล้วก็ขอเชิญที่ร้านสเตอริโอเฮาส์ ร้านจำหน่ายเครื่องไฟฟ้าและเครื่องเสียงเก่าแก่ที่ได้รับการเชื่อถือมายาวนานกว่า 30 ปี อยากจะเป็นเจ้าของหรือจะดูรายละเอียดเพิ่มเติมก็ที่ http://bit.ly/pKVLnz หรือจะสอบถามก็ที่ 02.255.2584-9 หรือ sales@stereohouse.co.th